(สำนักข่าวรอยเตอร์ส แวดวงสุขภาพ) -จากการศึกษาพบว่า ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเกี่ยวข้องกับการหายใจในเวลากลางคืนเช่นนอนกรนหรือหยุดหายใจขณะนอนหลับมักจะมีน้ำตาลในเลือดสูงและมีโอกาสพัฒนาไปเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นักวิจัยกล่าวว่าจากการเฝ้าติดตามผู้ใหญ่กว่า 6,000 คนในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 10 ปี ชี้ให้เห็นว่าแพทย์ควรตรวจระดับน้ำตาลในเส้นเลือดของกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล) “หลักฐานล่าสุดชี้ให้เห็นว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความชุกของโรคภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับมากกว่าบุคคลทั่วไป“ Linn Beate Strand ผู้เขียนรายงานกล่าวทางอีเมล์ “อย่างไรก็ตามผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับสามารถพัฒนาไปเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของผู้สูงอายุ” Strand กล่าวที่ศูนย์การแพทย์บอสตันเบธ อิสราเอล ดีคอนเนส รายงานจากสถาบันหัวใจ ปอด และเลือดแห่งชาติ ระบุว่าภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับจะเกี่ยวข้องกับอัตราอุบัติการณ์คิดได้จากจำนวนครั้งที่เป็นระหว่างการนอนหลับเมื่อระบบทางเดินหายใจปิดคนก็จะหยุดหายใจบ่อยครั้งที่สูดลมหายใจอย่างกะทันหันจะก่อให้เกิดเสียงหายใจที่รุนแรงหรือก่อให้เกิดการสำลักอากาศ ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง โดยประมาณ 30 ครั้งต่อชั่วโมง จึงทำให้เกิดการง่วงนอนในตอนกลางวันและยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดในสมอง, โรคหัวใจล้มเหลว, โรคหัวใจเต้นผิดปกติ, โรคเบาหวาน และยังเสี่ยงที่จะเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน นักวิจัยเจาะชี้เป้าไปที่วารสารการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานการศึกษาก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่มักมุ่งเน้นความผิดปกติด้านการนอนและโรคเบาหวานไปที่คนหนุ่มสาวหรือวัยกลางคนแต่ Strand กล่าวกับ สำนักข่าวรอยเตอร์ส แวดวงสุขภาพ ว่า ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับหรือการนอนกรนถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น Strand และเพื่อนร่วมงานได้ร่วมกันวิเคราะห์ข้อมูลประชากรจำนวน 5,888 คน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ได้รับคัดเลือกทั่วสหรัฐอเมริการะหว่างปี 1989 และปี
...Read More