share ประสบการณ์การรักษาอาการนอนกรนที่ รพ. ศิริราช

สวัสดีครับ ผมชือ นายศิวพงษ์ เกียรติเถลิงฤทธิ์ มีอาการนอนกรนมาตั้งแต่ ตอนอยู่ ม.ปลาย

คำถามคือ ทำไมผมถึงเลือกที่จะรักษาอาการนอนกรนที่ รพ.ศิริราช?

คำตอบคือ บ้านผมอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี รพ.ศิริราช เป็นโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด สำหรับโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญในการรักษาอาการนอนกรนครับ รวมทั้งผมได้ดูรายการ ศิริราช360° [by Mahidol] ทนนอนกรนเสี่ยงถึงตาย จึงตัดสินใจเลือกรักษาที่ รพ.ศิริราช ครับ

เพือไม่ให้เป็นการเสียเวลาเริ่มเลยดีกว่า

ขั้นแรก เราต้องลงทะเบียนก่อน สมัยนี้สามารถสมัครได้ทาง online ที่: http://www.si.mahidol.ac.th/project/medrecord/
(เราค่อยไปรับบัตรจริงวันที่เราไปพบแพทย์) หลังจากนั้นก็รอรับเลข HN ทาง email ที่เราใช้สมัคร ประมาณ 2-3 วัน ครับ หลังจากนั้นเราก็นำเลข HN ไปจองกับคลินิกนอนกรนที่เบอร์ โทรศัพท์ 0-2419-7835 โดย คุณหมอวิชญ์ บรรณหิรัญ จะตรวจทุกวันศุกร์ครับ เวลา 9.00 – 12.00 น. (เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์)

ผมโทรไปจองก็ได้คิวตรวจภายใน 7 วัน ครับ

พอมาถึงวันนัดตรวจ ผมไปที่ตึกสยามินทร์ ชั้น 1 ห้อง 102 พยาบาลก็ให้เราทำแบบสอบถามซึ่งเยอะมากประมาณ 10-20 หน้า หลังจากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดรอบคอ แล้วก็รอพบคุณหมอ ซึ่งใช้เวลารอประมาณ 1 ชั่วโมง กว่าจะได้พบหมอครับ

พอพบคุณหมอ คุณหมอก็ซักถามเกี่ยวกับอาการนอนกรนอีก และได้ใช้กล่องส่องดูภายในรูจมูก และทางเดินหายใจส่วนต้น โดยให้เราแลบลิ้นออกมา ก่อนจะสอดเครื่องมือเข้าไป เพื่อตรวจดูทางเดินหายใจส่วนต้นครับ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 1 พันบาท

บทสรุป จากครั้งนี้ คือ คุณหมอวิชญ์ พิจารณาจากแบบสอบถามและการซักถามแล้ว เบื้องต้นคาดว่าไม่น่าจะมีสภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แต่ก็จำเป็นต้องตรวจการนอนหลับ (sleep test) ก่อน เพื่อความถูกต้อง แม่นยำในการรักษา จึงส่งให้เราไปนัดกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องการ sleep test พบว่ากว่าจะมีคิวว่างก็ประมาณ 4-5 เดือน (นานมาก แต่คนที่เป็นหนักก็ไม่แนะนำนะครับ ควรไปทำ sleep test ที่ รพ.เอกชน จะเร็วกว่าครับ) มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 8,000 บาท ครับ แต่เดี่ยวก่อนสามารถใช้สิทธิบัตรทองได้ครับ 30 บาท โดยให้ รพ.แถวบ้านทำเรื่องส่งตัวให้ครับ

(ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

Part 2

พอมาถึงวันนัดที่จะทำ sleep test ทางเจ้าหน้าที่นัดเวลา 19.00 น ครับ ที่ ศูนย์ sleep center พอไปถึงก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ แล้วก็ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน ชีพจร วัดรอบคอ และวัดรอบสะโพก เมื่อเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็จะพาไปที่ห้องที่ใช้สำหรับตรวจการนอนหลับ

เมื่อถึงห้องพัก เจ้าหน้าที่ก็จะทิ้งแบบทดสอบไว้และให้เราพักผ่่อนตามอัธยาศัย และแจ้งว่าประมาณ 20.30 น เจ้าหน้าที่จะมาติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจการนอนหลับให้ สำหรับห้องพักถูกจัดให้เหมือนโรงแรม มีแอร์ ทีวี และห้องนำในตัวครับ สบายมากเลยครับ พอถึงเวลา 20.40 น เจ้าหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจการนอนหลับ ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ก็เสร็จ สายเต็มตัวเลยครับ 555

(ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะทดสอบระบบการทำงานของสายที่ติดตั้งไว้ โดยการพูดผ่านไมโครโฟน ให้เราลองหายใจเข้า – ออก การขยับแขน – ขา เป็นต้น ถ้าเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะให้นอนได้เลย โดยปิดทีวี และปิดไฟ ครับ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะมาปลุกตอน 5.00 น ครับ

พอถึงเวลาตีห้า เจ้าหน้าที่ก็มาปลุก และถอดอุปกรณ์ให้ครับ หลังจากนั้น เราต้องทำแบบสอบถาม จากการนอนเมื่อคืน และทำกิจวัตรส่วนตัวให้เรียบร้อย โดยต้องออกจากห้องพักไม่เกิน 6.00 น หลังจากนี้อีกประมาณ 1 เดือน ถึงจะทราบผล sleep test ครับ

Part 3

(ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

1 เดือน ผ่านไป ผล sleep test ออกแล้วครับ ผลก็คือ ผมมีสภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับปานกลาง ที่ 22.7 ครั้ง/ชั่วโมง (อ่านผลจากค่า AHI Index ครับ)

หลังจากที่คุณหมออ่านผลจากการ sleep test ได้แจ้งผมว่า จำเป็นต้องใช้ CPAP ทุกคืน โดยผมได้ทดลองใช้ประมาณ 7 วัน ก็จะปรับตัวได้ครับ ยอมรับว่าหายใจออกลำบากอยู่เหมือนกัน ราคา CPAP ที่ขายในไทยมีตั้งแต่ 30,000 – 69,000 บาท แล้วแต่รุ่นและยี่ห้อ ผมแนะนำยี่ห้อ Philips หรือ Resmed นะครับ 2 Top Brands ของโลก

CPAP คือวิธีในการรักษาอาการนอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ แบบไม่ผ่าตัด ที่ได้ผลดีที่สุดในปัจจุบัน ทุกคืนถ้าใช้ CPAP ก็จะไม่กรนเลยครับ แต่จำเป็นต้องใช้ทุกคืนนะครับ แฟน Happy เราก็ Happy ครับ